เทรดหุ้นให้มีกำไร ต้องเข้าใจพื้นฐานเรื่องต่าง ๆ อย่างครบถ้วน

การเทรดหุ้น ถือเป็นอีกวิธีดี ๆ บนโลกการลงทุนที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ด้วยการมีกฎหมายรองรับ มีความปลอดภัยสูง แต่เหนือสิ่งอื่นใดทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงทั้งการเกิดผลกำไรและขาดทุน ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากลงทุนกับหุ้นแล้วไม่เสียสุขภาพจิต มีกำไรกลับคืนมาแม้อาจไม่ได้ก้อนใหญ่โตอะไรมากนัก ก็ต้องเข้าใจพื้นฐานในเรื่องต่าง ๆ ที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ จะช่วยให้เทรดได้อย่างมีความสุขยิ่งกว่าเดิม

เข้าใจเหตุผลที่แท้จริงของตนเองในการเทรดหุ้น

แม้ภาพรวมของนักลงทุนจะมีจุดประสงค์คล้ายกันนั่นคือ การได้ผลกำไรกลับคืนมา แต่แท้จริงแล้วก่อนการตัดสินใจเทรดหุ้นต้องเข้าใจถึงเหตุผลที่แท้จริงของตนเองก่อนว่าทำไมจึงเลือกลงทุนกับสินทรัพย์ประเภทนี้ เพราะปัจจุบันยังมีตัวเลือกอื่นอีกเยอะมาก เช่น กองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำกว่าหลายเท่า, การลงทุนคริปโตเคอเรนซี่ที่กำลังมาแรง โดยถ้าลองสรุปให้ชัดเจนก็แยกประเภทออกได้ คือ

• ลงทุนเพื่อสร้างเงินเก็บและเป็นหลักประกันในชีวิต เพราะหุ้นบางตัวซื้อไว้ตอนถูกแล้วพอราคาพุ่งสูงก็ลงยาก
• ลงทุนเพื่อสร้าง Passive Income วางแผนอนาคตชีวิตให้เกษียณเร็วขึ้น ใช้ชีวิตอิสระ มีรายได้อยู่ตลอด
• ลงทุนตามกระแสหรือตามคำแนะนำของผู้อื่น ยังไม่มีเป้าหมายชัดเจน แต่ก็อยากได้ผลกำไรตอบแทน

กลยุทธ์ที่ใช้ในการเทรดหุ้น

เมื่อเข้าใจเหตุผลของการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทหุ้นกันไปแล้ว ก็จะนำมาซึ่งการเลือกกลยุทธ์สำหรับเทรดหุ้นให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตนเองคาดหวังเอาไว้มากที่สุด ซึ่งจะขอแนะนำกลยุทธ์ยอดนิยมดังนี้

1. การลงทุนแบบพื้นฐาน

บางคนจะเรียกว่า กลยุทธ์แบบ Value Investing หรือลงทุนแบบมีคุณค่า หลักการคือ ต้องเลือกหุ้นที่คาดว่าจะมองเห็นผลกำไรในระยะยาวอย่างน้อย 1 ปีขึ้นไป ซึ่งใครที่คิดใช้กลยุทธ์การเทรดหุ้นแบบนี้ต้องเข้าใจในเรื่องหุ้นอย่างดี สามารถดูพื้นฐานหุ้นเป็น โอกาสประสบผลสำเร็จและทำได้ตามเป้าหมายที่ตนเองวางเอาไว้ก็มีสูงมาก แต่ถ้าใครยังไม่ชัวร์ก็อาจซื้อตามคนดังในวงการหุ้นแต่ทั้งนี้ก็ต้องติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดในระดับหนึ่งเช่นกัน

2. การลงทุนแบบ DCA

กลยุทธ์ DCA หรือ Dollar Cost Average เป็นวิธีที่นักลงทุนจะแบ่งเงินของตนเองเข้ามาซื้อหุ้นในทุก ๆ เดือน โดยไม่ต้องสนใจมากนักว่าราคาในช่วงนั้นเป็นอย่างไร อาจถูกบ้าง แพงบ้างก็ไม่ว่ากัน แต่ต้องมองถึงพื้นฐานของหุ้นเป็นสำคัญ หมายถึง คาดเดาแล้วว่าจะสามารถทำกำไรในอนาคตได้แน่ ๆ แม้ต้องถือนานสักนิด แบบนี้ก็จัดว่าคุ้ม เหมาะกับสายลงทุนแบบมีเงินเย็นและไม่ใจร้อ

3. การลงทุนแบบ Day Trade 

กลยุทธ์การเทรดหุ้นวิธีนี้เหมาะกับคนอยากทำกำไรแบบรวดเร็ว เพราะจะใช้วิธีเทรดแบบให้จบภายในวันเดียว เช่น ซื้อหุ้นนี้ตอนเช้าแล้วขายตอนบ่ายก่อนตลาดปิด เป็นต้น ส่วนใหญ่มักใช้กับช่วงที่ตลาดมีการผันผวนสูง ราคาแกว่งไปมา แต่ในช่วงที่ทำการลงทุนต้องคอยติดตามกราฟอยู่เสมอ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงของการขาดทุน หากตอนไหนมองแล้วกราฟพุ่งสูงกว่าราคาซื้อก็อาจเทขายออกไปเลย

4. การลงทุนแบบ Technical

อีกกลยุทธ์ที่น่าสนใจคือ การนำเอาเทคนิคต่าง ๆ มาเป็นทางเลือกในการลงทุน ตรงนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของตลาด หรือความน่าจะเป็นที่ถูกคาดเดาเอาไว้ เช่น การใช้กลยุทธ์ลงทุนแบบกราฟแท่งเทียน เป็นต้นหรือบางคนจะใช้เทคโนโลยีอย่างพวก บอทเทรดหุ้น ก็ไม่ว่ากัน

สภาพจิตใจต้องแข็งแกร่งมากพอในการเทรดหุ้น

เรื่องสุดท้ายที่อยากให้นักลงทุนสายหุ้นทุกคนเข้าใจพื้นฐานให้ดีคือ การมีสภาพจิตใจอันแข็งแกร่ง ไม่โลเล หรือรู้สึกหวั่นไหวจนเกินไป ตัดเอาความโลภของตนเองออกไปบ้าง แล้วเทรดตามสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น หากจังหวะไม่ได้แล้วกขาดทุนก็ต้องเผื่อใจเอาไว้ล่วงหน้า อย่าทุ่มจนหมดหน้าตักเพราะความมั่นใจเกินเหตุ สิ่งเหล่านี้ไม่เข้าใครออกใคร ทุกคนมีโอกาสได้กำไรและขาดทุนเท่ากัน หากคุณเองมีจิตใจไม่แข็งแกร่งพอ ยังไม่กล้าเสี่ยงก็อย่าพึ่งรีบร้อนใช้เงินก้อนใหญ่ในชีวิตเทรดหุ้นจะดีที่สุด

ทั้งหมดนี้คือข้อมูลพื้นฐานที่คนลงทุนต้องเข้าใจหากคิดเทรดหุ้นให้เกิดผลกำไรกับตนเอง มองแล้วอาจเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่เมื่อเข้าไปอยู่ในสถานการณ์จริงอาจไม่ใช่อย่างที่คิด และควรไตร่ตรองทุกอย่างให้รอบคอบมากที่สุดแล้วจึงตัดสินใจ