ETDA เผยรายงานผลการสำรวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจ B2C ไทย โตครองอันดับ 1 ในอาเซียน การเปิดร้านค้าออนไลน์อาจเป็นประตูสู่ดวงดาวในอนาคต

สถานการณ์ธุรกิจ E-commerce ในไทยเป็นอย่างไร ?? การเปิดร้านค้าออนไลน์ยังน่าทำอยู่ไหมในช่วงเวลานี้ ?? คงเป็นคำถามในใจหลายๆ คนในช่วงเวลานี้ ที่ความนิยมของการทำธุรกิจทางออนไลน์พุ่งสูงขึ้นทุกปี อีกทั้งยังเป็นหนทางอยู่รอดของหลายธุรกิจที่จะเสริมประสิทธิภาพให้เติบโตได้ต่อไปในอนาคต

อย่างที่ทราบกันดีว่าธุรกิจ e-Commerce มีแนวโน้มเติบโตขึ้นทุกปีและเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการที่แบรนด์ธุรกิจหันมาจับท่องช่องทางออนไลน์อย่างเต็มตัว การปรับตัวตามสภาวะทางสังคมเพื่อการอยู่รอดอย่างช่วงสถานการณ์ Covid – 19 ที่ทำให้งานอีเว้นท์จัดแสดงสินค้า งานขายสินค้าลดราคา ปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ได้ เช่น งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติในช่วงเมษายนที่ผ่านมา ที่ได้เปิดเว็บ e-Commerce ให้กลุ่มผู้รับหนังสือได้เข้ามาเลือกช้อปสินค้าผ่านทางออนไลน์อย่างเต็มตัวเป็นครั้งแรก รวมถึงกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ ที่สามารถพยุงกิจการให้รอดพ้นจุดวิกฤตมาได้ จากการเปิดช่องทางขายบนออนไลน์อย่างเต็มตัว

ซึ่งเมื่อเดือนกันยายน 2563 สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ได้เผยรายงานผลสำรวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ปี 2562 แม้เวลาจะล่วงเลยมาถึงปลายปี 2563 แล้วก็ตาม แต่ในรายงานครั้งนี้ก็ได้เปิดเผยข้อมูลการเติบโตของกลุ่มธุรกิจ e-commerce ในไทยที่น่าจับตามอง ซึ่งผลจากปี 2561 ธุรกิจ e-commerce มีมูลค่าการเติบโตอยู่ที่ 3,767,045 ล้านบาท โดยทำการสำรวจจาก 3 กลุ่มผู้ประกอบการได้แก่ B2B (ธุรกิจสู่ธุรกิจ) B2C (ธุรกิจสู่ผู้บริโภค) B2G (ธุรกิจสู่หน่วนงานภาครัฐ) พบว่าในปี 2562 ธุรกิจ e-commerce มีมูลค่าการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 4,027,277 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2561 กว่า 6.911 %


3 ปัจจัยหลัก ที่สนับสนุนทำให้ธุรกิจ E-commerce เติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี

1. ผู้ประกอบการ E-commerce เพิ่มจำนวนขึ้นอย่าต่อเนื่อง

ซึ่งเป็นผลมาจากจำนวนผู้บริโภคที่หันมาช้อปปิ้งผ่านทางออนไลน์มากขึ้นและกลุ่มลูกค้าอายุน้อยช่วยขยายฐานผู้ซื้อเพิ่มมากขึ้น ทำให้ธุรกิจต่าง ๆ ทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก ต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ด้านการตลาดด้วยการกระโดดลงมาสู่เส้นทางออนไลน์ ด้วยการเปิดช่องทาง E-commerce เป็นของตัวเอง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า

2. การทุ่มเงินทำการตลาด ประชาสัมพันธ์ และโปรโมชั่น ของ e-Commerce ของผู้ประกอบการรายใหญ่และรายเล็ก

จากการแข่งขันทำโปรโมชั่นของธุรกิจ Marketplace ในช่องเทศกาลต่าง ๆ รวมถึงแคมเปญอย่าง 8.8 9.9 10.10 11.11 และ 12.12 ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ธุรกิจออนไลน์เกือนทั้งหมด เช่น แบรนด์ เว็บไซต์ และแพลตฟอร์ม ต่าง ๆ ทุมงบประมาทำการตลาดทางออนไลน์และซื้อสื่อผ่านแพลตฟอร์มยอดนิยมมากขึ้น เพื่อสร้างยอดขายให้ได้มากที่สุด

3. การมาของเทคโนโลยี 4G 5G เข้าถึงผู้ใช้งานได้ทั่วถึง ประกอบการเทรนด์ซื้อของ ผ่าน Live Streaming แบบเรียลไทม์ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน

โดยเฉพาะทาง Facebook live ที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นซึ่งสามารถขายสินค้าได้ทุกประเภท สามารถสร้างลูกค้าประจำให้ติดตามร้านได้ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของพ่อค้าแม่ค้า อีกทั้งยังช่วยลดช่องว่างระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายลง ทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อสินค้าได้เร็วยิ่งขึ้น

ธุรกิจ B2C ไทยโตครองอันดับ 1 ในกลุ่มประเทศอาเซียน 

 

ภาพจาก สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA)

การพัฒนาเทคโนโลยีสื่อสารเป็นสิ่งกระตุ้นที่ทำให้ธุรกิจ e-commerce ในหลาย ๆ ประเทศมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ไม่เพียงแค่ประเทศไทยเท่านั้น โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจแบบ B2C ในกลุ่มประเทศอาเซียน นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีและเป็นโอกาสที่น่าจับตามองมากอีกทางหนึ่ง เพราะประเทศไทยได้ครองอันดับ 1 ที่มูลค่า e-Commerce เติบโตมากที่สุดที่ 46.51 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งทั้ง 5 อันดับประกอบไปด้วย

  • อันดับ 1 ประเทศไทย มูลค่า e-Commerce เติบโต 46.51 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
  • อันดับ 2 ประเทศมาเลเซีย มูลค่า e-Commerce เติบโต 21.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
  • อันดับ 3 ประเทศอินโดนีเซีย มูลค่า e-Commerce เติบโต 9.50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
  • อันดับ 4 ประเทศเวียดนาม มูลค่า e-Commerce เติบโต 7.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
  • อันดับ 5 ประเทศสิงคโปร์ มูลค่า e-Commerce เติบโต 4.94 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

มูลค่า e-Commerce แบบ B2B โตครองแชมป์ 6 ปีซ้อน

 

ภาพจาก สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA)

ถึงแม้ว่าภาพรวมมูลค่า e-Commerce ในประเทศไทยจะเติบโตครองอันดับ 1 ในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งเมื่อจำแนกประเภทตามผู้ประกอบการโดยแบ่งเป็นกลุ่ม B2B (ธุรกิจสู่ธุรกิจ) B2C (ธุรกิจสู่ผู้บริโภค) B2G (ธุรกิจสู่หน่วนงานภาครัฐ) พบว่าธุรกิจกลุ่ม B2B ยังคงครองแชมป์ e-Commerce ที่สามารถสร้างมูลค่าได้สูงสุดถึง 6 ปีซ้อน จากการขายสินค้าและบริการผ่านทางออนไลน์ โดยในปี 2561 ได้ทำมูลค่าได้ถึง 1,8000,733.45 ล้านบาท และในปี 2562 ขยับมูลค่าเพิ่มขึ้นมาที่ 1,910,754.36 ล้านบาท อันดับที่ 2 คือธุรกิจ B2C มีมูลค่าที่ 1,497,193.15 ล้านบาท อันดับที่ 3 คือ ธุรกิจ B2G มีมูลค่าที่ 619,330.31 ล้านบาท ตามลำดับ


เมื่อพิจารณาภาพรวมทั้งหมดของรายงานครั้งนี้ ธุรกิจ  e-Commerce ในไทยนับว่ามีมูลค่าเติบโตขึ้นทุกปีอย่างน่าประทับใจ ผู้ที่อยากลงทุนทำธุรกิจออนไลน์ เปิดร้านค้าออนไลน์ ไม่ว่าจะแบบ B2B B2C และ B2G ยังมีโอกาสเปิดรออยู่อย่างแน่นอน ด้วยปัจจัยทางพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป การก้าวเข้ามาของอินเทอร์เน็ต 4G และ 5G เอื้อประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจออนไลน์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงเทคโนโลยีที่พัฒนามาเพื่อซับพอร์ตการทำธุรกิจออนไลน์ที่พร้อมจะทำให้ธุรกิจทุกขนาดเติบโตได้มั่นคงกว่าที่เคย

รู้จักฟีเจอร์ของเรา             สมัครสมาชิก


ข้อมูล : สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA)

อ่านเพิ่มเติม : อัปเดตเว็บขายของออนไลน์ฉบับล่าสุด!