แชร์เทคนิคการเขียนบล็อก Content marketing ให้มีประสิทธิภาพ สร้างยอดขายได้จริง

ในยุคที่การขายของออนไลน์และการทำธุรกิจบนโซเชียลมีเดียเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด การทำ Digital Marketing ก็เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากในการทำการตลาดบนโลกออนไลน์เพื่อสร้างยอดขายให้กับธุรกิจ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและมีความผูกพันกับกิจกรรมทางออนไลน์มากขึ้น ทั้งซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ รับสารรับข้อมูลข่าวสารผ่านทางออนไลน์ รวมถึงค้นหาข้อมูลสินค้าและผลิตภัณฑ์ก่อนตัดสินใจซื้อผ่านทางออนไลน์อีกด้วย ด้วยพฤติกรรมนี้เองเทรนด์ Content marketing จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างยอดขายให้กับธุรกิจเป็นอย่างมาก

Content Marketing คืออะไร แตกต่างกับ Content ปกติอย่างไร นักเขียน Content หลายคนอาจเกิดคำถามสำหรับแนวทางการเขียนบล็อก Content Marketing ให้มีประสิทธิภาพต้องทำอย่างไร มีองค์ประกอบและวิธีการเขียนอย่างไรถึงจะเป็น Content Marketing ที่มีประสิทธิภาพและสามารถสร้างยอดขายให้ร้านค้าได้จริง

Contnent Marketing คืออะไร

ก่อนจะไปดูรายละเอียดการเขียนบล็อก content marketing ให้มีประสิทธิภาพ ลองมีทำความรู้จักความหมายของ Content Marketing กันก่อนดีกว่า

Content Marketing คือเทคนิคการตลาดชนิดหนึ่ง โดยใช้ Content เป็นเครื่องมือสร้างยอดขาย ซึ่ง Content นั้นจะไม่ได้เล่าถึงข้อดีของผลิตภัณฑ์หรือบริการของธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่ยังมอบความรู้ที่มีคุณค่าและมีประโยชน์สำหรับลูกค้า และพวกเขาสามารถนำไปใช้แก้ไขปัญหาหรือนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง เมื่อกลุ่มลูกค้าเห็นว่า Content นี้มีคุณค่ากับเขามากพอก็จะเกิดก็สร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามาสู่ธุรกิจคุณได้มากมาย

เทคนิคการเขียนบล็อก content marketing ให้มีประสิทธิภาพต้องทำอย่างไร 

1. ทดลองและพัฒนา Content 

ในช่วงแแรกของการทำ Content Marketing นักเขียนสามารถกำหนดช่วงเวลาการทดลองทำ Content หลายๆ แบบเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อสำรวจกลุ่มลูกค้าของคุณว่ามีแนวโน้มจะสนใจ Content ประเภทไหนมากที่สุด เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ เทคนิคและเคล็ดลับที่มีเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ หรือเรื่องราวแนวไลฟ์สไตล์ที่เนื้อมมีความคาบเกี่ยวกับผู้คนจำนวนมาก ซึ่งเป้าหมายของการทดลองนี้นอกจากจะสำรวจได้ว่า ลูกค้าจะให้ความสนใจประเภทไหน ยังสามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้าง Awareness ดึงดูดกลุ่มลูกค้าแบบกว้าง ๆ ให้รู้จักธุรกิจของคุณ

2. ตามหาลูกค้าคุณแบบลงลึก

Content Marketing เป็นการมอบบทความที่มีคุณค่ามีประโยชน์กับลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของคุณ ดังนั้นเมื่อทำ Content แบบกว้างเพื่อวัดผลมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว ให้ลองหันกลับมาเจาะกลุ่มเป้าหมายแบบลงลึกด้วยการทำ Customer Persona ด้วยการจำลองกลุ่มลูกค้าจากฐานข้อมูลที่มีหรือสัมภาษณ์กลุ่มลูกค้าของคุณแบบลงลึก เพื่อทำความรู้จักลูกค้าอย่างแท้จริง พวกเขาเป็นใคร อายุเท่าไหร่ มีไลฟ์สไตล์แบบไหน ด้วยข้อมูลนี้เองจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนสร้าง Content Marketing ให้มีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น

คำถามพื้นฐานสำหรับ Customer Persona ที่จะประกอบด้วย 4 คำหลักๆ ก็คือ

  1. Who – ลูกค้าของคุณคนนี้เป็นใคร อายุเท่าไหร่ เพศไหน มีครอบครัวหรือโสด ทำงานอะไร ตำแหน่งไหน
  2.  What – เขามีความสนใจเกี่ยวกับอะไร เป้าหมายของลูกค้าเขาคืออะไร อุปสรรคของเขาคืออะไร
  3. Why – ทำไมบริการของคุณถึงตอบโจทย์เขา หรือทำไมเขาถึงต้องเข้ามาใช้บริการของคุณ
  4. How – ลูกค้าจะมาเจอผลิตภัณฑ์หรือบริการของธุรกิจคุณได้อย่างไร หรือผ่านมาจากช่องทางไหนได้บ้าง พฤติกรรมการรับข้อมูลข่าวสารของเขาเป็นอย่างไร

เมื่อคุณสร้าง Customer Persona เป็นตัวบุคคลที่สามารถจำลองบุคลิกและพฤติกรรมของลูกค้าคุณได้ครบทุกข้อแล้ว นักเขียนก็จะสามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้วางแผนในการสร้าง Content Marking เพื่อมอบบทความที่มีคุณค่า สร้างประโยชน์ให้กับลูกค้าจนสามารถนำทางลูกค้าไปถึงขั้นปิดการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. กำหนดเป้าหมายของ Content

เมื่อสร้าง Customer Persona จนสามารถเข้าใจบุลคลิกและพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายเรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็ต้องมาวางแผนและกำหนดเป้าหมายของ Content Marking ว่าบทความแต่ละชิ้นจะมีเป้าหมายอย่างไรบ้าง ใช้น้ำเสียงในการเล่าเรื่องอย่างไร สุดท้ายแล้วบทความนำจะนำทางกลุ่มเป้าหมายไปสู่อะไรบ้าง

  • Awareness – การสร้าง Content เพื่อให้เกิดการรับรู้และดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้มารู้จักหรือสงสัยใครรู้ว่าธุรกิจของคุณคืออะไร มีบริการอะไร และเป็นแบบไหน ขั้นนี้อาจจะยังไม่สามารถสร้างยอดขายได้ในทันที แต่เป้าหมายของ Content ประเภทนี้ก็คือการทำให้ลูกค้ารับรู้ว่ามีธุรกิจของคุณอยู่นั่นเอง

  • Interest นอกจากจะสร้างการรับรู้ได้แล้ว Content ยังสามารถดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายได้ จนกระทั่งทำให้พวกเขาต้องเข้ามาค้นหาว่าธุรกิจของคุณคืออะไร หน้าร้านอยู่ที่ไหน มีบริการภัณฑ์หรือบริการอะไร ขั้นนี้จะทำให้ลูกค้าสามารถจดจำธุรกิจของคุณได้ไปอีกขั้นอีกด้วย

  • Engagement   เป้าหมายของ Engagement คือการที่ลูกค้าเริ่มเข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับ Contnent ของคุณมากขึ้น ไม่ใช่เพียงกดเข้ามาอ่านข้อมูลแล้วออกไป บทความนี้ยังสามารถทำให้ลูกค้าสามารถกดไลค์ กดแชร์บทความ หรือเข้ามาร่วมพูดคุยกันภายในบทความของคุณ นั่นจะทำให้ Contnet ของคุณมีคุณค่ามากขึ้น

  • Consideration บทความของคุณสามารรถให้ทั้งข้อมูลอันมีคุณค่า โดยมีผลิตภัณฑ์ของคุณเป็นพระเอกในการชี้ทางสว่างสำหรับการแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าในครั้งนี้ ด้วย Content แนวนี้เองจะให้ให้ลูกค้าเริ่มพิจารณาสินค้าและบริการของคุณเข้าไปอยู่ในใจ เป็นอีก 1 ตัวเลือกที่เขาจะกดปุ่มตัดสินใจซื้อเมื่อไหร่ก็ได้

  • Conversion เมื่อลูกค้ารับสินค้าของคุณเข้าไปอยู่ในพิจารณาแล้ว กระตุ้นอีกครั้งด้วยคอนเทนต์ที่ทำให้เห็นว่าเขาต้องซื้อตอนนี้ทันที เพื่อสิ่งที่ดีกว่าที่รออยู่ อาจจะเช่นเป็นคำกระตุ้น โปรโมชั่นสำหรับคนที่สั่งซื้อตอนนี้ หรือปุ่ม Call to action ที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อทันที

  •  Sales Repetition ไม่ใช่ซื้อแล้วจบ แต่ต้องวนกลับมาซื้อซ้ำ มอบสิ่งพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า ที่ทำให้เขารู้สึกว่าต้งกดติดตาม Content จากธุรกิจของคุณไปเรื่อย ๆ เพื่อที่จะไม่พลาดสินค้าหรือโปรโมชันดี ๆ

  • Advocacy สร้างความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจด้วยการทำให้บอกต่อด้วยเสียงของลูกค้าที่เคยเข้ามาใช้บริการหรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของธุรกิจคุณ อาจจะนำรีวิวของลูกค้ามาทำ Content โปรโมท เพื่อทำให้ลูกค้าใหม่เข้ามากดซื้อสินค้าของคุณ

4. วางช่องทางเผยแพร่ Content

Contnet Marketing ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นประเภทบทความยาว ๆ เสมอไป แต่ยังรวมไปถึง Infographic คลิป VDO และรายการผ่านเสียงได้อีกด้วย การวางแผนช่องทางเผยแพร่ Content ที่เหมาะสมกับพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าของคุณ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกค้าของคุณอยู่บนช่องทางไหนมากที่สุด คำตอบก็คือดูจาก Customer Persona นั่นเอง ซึ่งช่องทางการเผยแพร่ Content ที่เหมาะสมบนโซเชียลยอดนิยมและธุรกิจสมควรโฟกัสก็คือ Website FacebookFanpage Instagram Twitter เป็นต้น

  • Website เป็นก้าวแรกสำหรับการลงสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ เสมือนบ้านหลักของคุณ ที่จะเสริมให้ธุรกิจอขงคุณดูมีตัวตนและน่าเชื่อถือมากกว่าแพลตฟอร์มออนไลน์ทั่วไป Content ที่เหมาะสมกับ Website เป็นบทความยาว หรือบทความ SEO ที่สามารถใส่รายบะเอียดที่ต้องการบอกลูกค้าได้ในปริมาณมากและครบถ้วน ช่วยสร้างคุณค่าให้บทความได้อย่างเหมาะสม เริ่มตั้งแต่การสร้าง Awareness  Interest Engagement  Consideration Conversion  Sales Repetition  และ Advocacy ได้อย่างครบครัน

  • แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย อย่าง FacebookFanpage Instagram Twitter เป็นช่องทางที่ลูกค้ามักใช้งานอย่างแพร่หลาย เหมาะสำหรับการสร้าง Awareness และสามารถนำทางกลุ่มลูกค้าไปอ่านบทความต่อได้ที่หน้า Website เพื่อรับข้อมูลเชิงลึกมากขึ้นและนำไปสู่ขั้นปิดการขายได้อย่างครบวงจร

การเขียนบล็อก Content Marketing ให้มีประสิทธิภาพต้องเริ่มจากการวางแผนทำความรู้จักกลุ่มเป้าหมาย เพื่อการวางแผนสร้าง Content Marketing ได้ตรงกับเป้าหมายมากที่สุด สุดท้ายคือสร้างบทความให้เหมาะสมกับแพลตฟอร์มที่นำเสนอ ทั้งหมดนี้คือส่วนประกอบของ Content Marketing ที่ครบถ้วนและสร้างยอดขายได้

นอกจาก Content Marketing ที่สามารถสร้างยอดขายให้ร้านค้าได้แบบสุดปังแล้ว บริการหลังการขายที่ฉับไว ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน การสร้างออเดอร์ การส่งสินค้าอย่างรวดเร็ว บริการที่ต้องการครบคลุม สินค้าส่งถึงปลายทางอย่างปลอดภัย เป็นองค์ประกอบหลังบ้านที่จะเสริมให้ธุรกิจของคุณคว้าใจลูกค้าได้อย่างงดงาม ทำให้เกิดการรีวิวและบอกต่อในเชิงบวก อีกทั้งยังช่วยเปลี่ยนลูกค้าหใม่เป็นลูกค้าประจำได้อีกด้วย

รู้จักฟีเจอร์ของเรา
สมัครสมาชิก