สำหรับคนที่กำลังมีความคิดอยากเริ่มต้นขายของ คำถามแรก ๆ ที่มักอยู่ในหัวเสมอคือ ขายอะไรดี ขายอะไรแล้วยอดขายสูง ได้กำไรเยอะ หลายคนเลือกที่จะหาข้อมูลว่าสินค้าอะไรกำลังได้รับความนิยม หรือมีสินค้าตัวไหนขายแล้วทำเงินได้เยอะ ๆ ทว่าในความเป็นจริงก่อนเลือกขายสินค้าใด ๆ ก็ตามจำเป็นต้องรู้คำตอบที่สามารถตอบได้ตรงประเด็นในใจมากที่สุดเสมอ
ขายอะไรดี ต้องมีวิธีคิดอย่างชาญฉลาด
1. มีความรู้กับสินค้ามากน้อยเพียงใด
คำถามแรกที่ควรต้องถามตัวเองเสมอก่อนคิดว่า ขายอะไรดี นั่นคือ สินค้าที่อยากขายมีความรู้ ความเข้าใจ สามารถตอบข้อสงสัยของลูกค้าได้มากน้อยแค่ไหน อย่ามองว่าคนนั้นขายของดี คนนี้ขายของแล้วทำกำไร เลยเลือกซื้อมาขายบ้างทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รู้ข้อมูล ไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลย โอกาสที่จะขายไม่ออกมีสูง หรืออาจขายดีตอนแรก ๆ แต่พอลูกค้าตั้งคำถามเยอะเข้าก็ไปไม่เป็นทำให้เสียโอกาสเปล่า ๆ
2. แหล่งรับซื้อสินค้ามีที่ไหนบ้าง
เมื่อรู้ว่าคิดจะขายสินค้าอะไรแล้ว คำถามต่อมาคือ แหล่งสินค้าที่จะไปรับมาขายอยู่ไหน เน้นว่าต้องให้คุ้มค่ากับต้นทุนที่เสียมากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น สินค้าซื้อที่สำเพ็งกับตลาดโรงเกลือตรงไหนราคาถูกกว่า คุ้มค่ากับการเดินทางหรือไม่ ต้องเปรียบเทียบตรงนี้ให้ดี อย่ามองแค่ราคาสินค้า เพราะต้นทุนมันรวมถึงค่าใช้จ่ายทุกอย่างที่เกิดขึ้นในการได้สินค้ามาแต่ละครั้ง
3. ขายช่องทางไหนดี
ก่อนจะเลือก ขายอะไรดี ช่องทางการขายเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เห็นว่าโอกาสที่สินค้านั้นมีคนซื้อมากน้อยแค่ไหน แม้บอกว่าโลกออนไลน์ใคร ๆ ก็ขายของได้ แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะถ้าคิดแค่ขายกับเพื่อน ๆ ในเฟซบุ๊ก หรือทำเพจขึ้นมาโดยไม่รู้วิธีเจาะกลุ่มเป้าหมาย ไม่รู้วิธีทำโฆษณาอย่างถูกต้อง มันก็เหมือนกับการลงทุนเปล่า แทบไม่ได้ผลกำไรกลับมาอย่างที่ควรจะเป็น
4. ขายสินค้าแฟชั่นดีจริงหรือ
หลาย ๆ คนชอบบอกว่าช่วงนี้กระแสของสินค้าตัวนี้กำลังมา เลือกขายสิกำไรแน่นอน จริง ๆ โอกาสที่จะได้กำไรมันมีอยู่แล้ว แต่ถ้ามองภาพรวมระยะยาวบรรดาสินค้าแฟชั่นทั้งหลายมักมาเร็วไปเร็ว (ยิ่งสมัยนี้อะไรก็รวดเร็ว สินค้าบางอย่างนิยมแค่ไม่กี่วันก็เลิก) ดังนั้นต้องถามตนเองว่าคิดจะขายสินค้าแฟชั่นคือเน้นขายระยะสั้น ๆ อยากได้เงินชั่วคราวเฉย ๆ หรืออยากยึดเป็นอาชีพหลัก ถ้ายึดเป็นหลักแนะนำว่าควรต้องพยายามศึกษาแฟชั่นที่คนนิยมในช่วงเวลาต่าง ๆ และไม่ควรเอาสินค้ามาเยอะเพราะจะกลายเป็นจมทุนได้
5. รู้ระบบบัญชีพื้นฐานหรือไม่
คำว่าพื้นฐานคือไม่ต้องถึงขนาดรู้การทำบัญชีตามหลักที่ถูกต้องมากนัก แต่ต้องคำนวณให้เป็นว่าลงทุนเท่าไหร่ มีรายรับ รายจ่ายแต่ละวันอย่างไรบ้าง เพื่อให้มองเห็นตัวเลขที่ชัดเจนซึ่งจะทำให้คุณมีการวางแผนที่มากขึ้น เช่น รู้ว่าการซื้อจากแหล่งนี้เมื่อคำนวณต้นทุนแล้วแพงก็พยายามมองหาแหล่งอื่นที่มีโอกาสทำให้ต้นทุนลดลง เป็นต้น
6. มีโอกาสพัฒนาและต่อยอดการขายได้มากน้อยแค่ไหน
ตรงนี้จะเป็นเรื่องของแผนการตลาดในอนาคต ต้องคิดเผื่อไว้เสมอว่า เมื่อเลือก ขายอะไรดี แล้วต้องเห็นโอกาสทางธุรกิจเสมอ เพราะไหน ๆ ก็เลือกจะหันมาเอาดีทางด้านนี้ก็ควรเห็นอนาคตชัดเจน ลองดูว่าสินค้านั้น ๆ มีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนามากน้อยแค่ไหน เช่น ขายหมูปิ้งตอนเช้า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะขยายกิจการ, รสชาติพัฒนาให้หลากหลายขึ้น, มีสินค้าอื่น ๆ ในหมวดเดียวกันเข้ามาเพิ่มเติม เป็นต้น การขายสินค้าจึงไม่ใช่แค่คิดให้จบว่า ขายอะไรดี แต่ต้องมองภาพระยะยาวให้ออกด้วย
แม้ทุกวันนี้การขายของจะไม่ใช่เรื่องยากเพราะนอกจากการมีทำเลดี ๆ ช่องทางออนไลน์ยังเป็นอีกตัวเลือกที่จะช่วยให้พ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ประสบความสำเร็จ แต่ก็อย่าลืมว่าเมื่อเริ่มมีคำถามในหัว ขายอะไรดี ก็ต้องพยายามตอบคำถามที่พูดมาทั้งหมดให้ได้ เพราะถ้าตอบได้ครบถ้วนรับรองว่าจากแค่ขายของธรรมดาจะกลายเป็นธุรกิจที่สร้างผลกำไรได้อย่างมหาศาลในอนาคต