ส่อง App Tracking Transparency บน iOS 14.5 ส่งผลกับ Facebook Ads อย่างไร

การขายของออนไลน์ในปัจจุบันพ่อค้าแม่ค้าที่ขายก็มาสักพักหนึ่งเย่อมจะรู้ดีว่า การยิง Ads จะช่วยเพิ่มลูกค้าเข้ามายังร้านค้าได้อย่างมากมาย การยิง Ads จึงสำคัญกับคนขายของออนไลน์อย่างมาก ยิ่งถ้ายิง Ads ได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายยิ่งจะให้ให้ร้านขายของได้มากขึ้นและขายดียิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแต่ต่อไปนี้การยิง Ads อาจจะทำได้อยากขึ้นจากการอัปเดตใหม่ของ Apple กับ ระบบ iOS 14.5 ที่มาพร้อมฟีเจอร์ App Tracking Transparency ที่จะเข้ามาเพิ่มความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานให้มากขึ้นและจะทำให้ทุกแอปพลิเคชั่นและทุกเว็บไซต์เก็บข้อมูลของผู้ใช้งานน้อยลงนั่นเอง

ฟีเจอร์ App Tracking Transparency บน iOS 14.5 คืออะไร

ฟีเจอร์ App Tracking Transparency มาพร้อมกับ iOS เวอร์ชั่น 14.5 จากความตั้งใจของ Apple ที่จะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใช้งานได้มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งทุกครั้งที่ผู้ใช้งานใช้งานแอปพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ต่าง ๆ ฟีเจอร์ App Tracking Transparency จะแสดง Popup ของความยินยอมเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งานเพื่อนำไปใช้เป็นฐานข้อมูลในการทำโฆษณาหรือข้อมูลในการพัฒนาด้านอื่น ๆ ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่า จะ “อนุญาต” หรือ “ไม่อนุญาต” ให้แอปพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์เก็บข้อมูลของคุณก็ได้

iPhone รุ่นไหนบางที่รองรับระบบ iOS 14.5 

  • iPhone 12 mini, iPhone 12, iPhone 12 Pro, iPhone 12 Pro Max
  • iPhone 11, iPhone 11 Pro, iPhone 11 Pro Max,
  • iPhone XR, iPhone XS, iPhone XS Max
  • iPhone X
  • iPhone SE (รุ่นที่ 2)
  • iPhone 8, iPhone 8 Plus
  • iPhone 7, iPhone 7 Plus
  • iPhone 6s, iPhone 6s Plus
  • iPhone SE (รุ่นที่ 1)

iPad รุ่นไหนบางที่รองรับระบบ iOS 14.5 

  • iPad Pro 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 4), iPad Pro 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 3)
  • iPad Pro 11 นิ้ว (รุ่นที่ 2), iPad Pro 11 นิ้ว (รุ่นที่ 1)
  • iPad Air (รุ่นที่ 4)
  • iPad Pro 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 1 และ 2)
  • iPad Pro 10.5 นิ้ว
  • iPad Pro 9.7 นิ้ว
  • iPad Air (รุ่นที่ 3), iPad Air 2
  • iPad (รุ่นที่ 8), iPad (รุ่นที่ 7), iPad (รุ่นที่ 6), iPad (รุ่นที่ 5)
  • iPad mini (รุ่นที่ 5), iPad mini 4

เมื่อผู้ใช้ไม่อนุญาตให้เก็บข้อมูลจะส่งผลกระทบต่อ Facebook Ads อย่างไร 

ในอดีตผู้ใช้ทุกคนจะถูกเก็บเข้ามูลการท่องเว็บไซต์และการค้นหาข้อมูลแบบอัตโนมัติ โดยที่ผู้ใช้งานก็ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกเก็บข้อมูลอยู่ อย่างที่หลายคนคนได้ยินมุกที่คุยเล่นกันขำ ๆ ว่า ถูก Facebook และ Google ดักฟังข้อมูล เพราะเมื่อไหร่ที่เราเผลอค้นหาสินค้าหรือบริการใด ๆ ไปไม่ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ สักพักนึง เจ้าสินค้าหรือบริการนั้นก็จะโผล่ตามมาหลอกหลอนที่หน้าฟีดคุณแบบงง ๆ โดยที่คุณไม่ได้เสิร์ทหามันนั่นเอง ซึ่งต่อไปนี้ผู้ใช้งาน iOS ที่เลือก “ไม่อนุญาต” ให้เข้าถึงข้อมูลก็อาจจะเห็นโฆษณาต่าง ๆ น้อยลง เป็นความสบายตาของลูกค้า แต่กลับเป็นความไม่สบายใจของผู้ขาย เพราะเท่ากับว่าพวกเขากำลังเข้าถึงกลุ่มลูกค้าสาย iOS ไปอย่างน่าเสียดาย และพ่อค้าแม่ค้าสายยิง Facebook Ads อาจได้รับผลกระทบ ดังนี้

Facebook เก็บข้อมูลจากผู้ใช้งานได้น้อยลง

แน่นนอนว่าเมื่อผู้ใช้งานปฎิเสธที่จะให้ Facebook ต่าง ๆ เข้าถึงข้อมูล ก็จะทำให้การเข้าถึงข้อมูลทำได้ยากขึ้นและเก็บข้อมูลได้น้อยลง ไม่ใช้แค่ Facebook เท่านั้นยังรวมถึงแพลตฟอร์มอื่น ๆ อีกด้วย ซึ่งพฤติกรรมนี้จะทำให้คลังข้อมูลผู้ใช้งานลดน้อยล และจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการประเมินข้อมูล เพื่อยิง Ads ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอีกด้วย

Facebook Ads แม่นยำน้อยลง เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายยากขึ้น

เมื่อคลังข้อมูลของ Facebook น้อยลง แน่นอนว่าประสิทธิภาพการประมวลข้อมูลผู้ใช้งานย่อมลดน้อยลง การยิง Ads ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายจะทำได้อยากขึ้น ผู้ใช้งาน iOS จะเห็น Ads น้อยลง และอาจจะทำให้ยอดขายของร้านค้าบางร้านตกลงอีกด้วย

ราคา Ads แพงขึ้น

การประมวลผลที่ไม่แม่นยำ อาจจะส่งผลให้ค่า Ads แพงขึ้น หรือจะต้องปรับโฆษณาหลายครั้งเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง ซึ่งนั่นอาจจะทำให้เสียเงินมากขึ้นกว่าเดิม

Ads ที่เน้นการทำ Conversion ทำได้ยากขึ้น

นับเป็นเรื่องที่ต้องขบคิดสำหรับร้านค้าหรือแบรนด์ที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง โดยใช้ Facebook เป็นช่องทางสำรับประชาสัมพันธ์แบรนด์และเป็นช่องทางโปรโมทโฆษณาเพื่อนำทางลูกค้าไปยังหน้าเว็บไซต์เพื่อปิดการขาย จากนี้การทำ Conversion จะทำได้ยากขึ้น เพราะนอกจากจะยิง Ads ให้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้ยากขึ้นแล้ว ยังติดข้อจำกัดอื่น ๆ ได้อีกด้วย

วิธีรับมือกับ iOS 14.5 เพื่อให้ยิง Ads แบบมีประสิทธิภาพ

  1. สำหรับร้านค้าหรือแบรนด์ที่มีเว็บไซต์ ต้องยืนยันโดเมน  (Verify Domain)  ผ่าน Facebook Business Manager หรือบัญชีธุรกิจให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันโฆษณาโดนระงับหรือหยุดการแสดงผล
  2. ปรับโฆษณาแบบ Convertion ให้ไม่เกิน 8 Event ในขั้นนี้คุณต้องเรียงลำดับความสำคัญของกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นบน Ads แต่ละตัว เพื่อให้การดฆษณาเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

3. สำหรับร้านค้าที่ขายบน Facebook และไม่มีเว็บไซต์อาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ก็ควรติดตามข่าวสารและมองหาแนวทางการโฆษณาสินค้าในช่องทางใหม่ ๆ อยู่เสมอ ร้านค้าที่ไม่มีเว็บไซต์ควรลงโฆษณาในหลายแพลตฟอร์ม เพื่อเก็บยอดขายจากหลายช่องทางมากขึ้นนั่นเอง

สรุป iOS 14.5 กับฟีเจอร์ App Tracking Transparency จะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของ Facebook Ads มากขึ้นไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะร้านค้าที่เน้นขายบนเว็บไซต์เป็นหลากที่ต่อไปนี้จะยิง Ads สายทำ Convertion ได้ยากขึ้นและติดข้อจำกัดมากขึ้น ซึ่งร้านค้าที่ไม่ได้รับผลกระทบเท่าไหร่ก็คือร้านค้าที่เพิ่งเริ่มต้นขายบน Facebook หรือ เน้นขายบน Facebook เพียงแพลตฟอร์มเดียวเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามคนขายออนไลน์ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะไม่รู้ว่า Apple จะพัฒนาฟีเจอร์ไหนมาสร้างอิมแพ็คกับทาง Facebook อีกบ้าง ทางที่ดีพ่อค้าแม่ค้าควรศึกษาวิธียิง Ads ในแพลตฟอร์มอื่น ๆ ให้มากขึ้น เผื่อวันไหนที่วงการ Ads มีการเปลี่ยนแปลงอีกคุณจะได้ปรับตัวและรับมือได้ทันที โดยที่ยอดขายของร้านคุณยังได้ต่อได้นั่นเอง

มีปัญหาเรื่องธุรกิจออนไลน์ อยากใช้ระบบจัดการร้านค้า โทรปรึกษา Fillgoods ฟรี!

โทรเลย 021146800 กด 1

วันจันทร์ – วันศุกร์
เวลา 09.00 – 18.00 น.