‘New 4P คืออะไร’ เปิดกลยุทธ์ใหม่ที่จะพลิกธุรกิจออนไลน์ให้ขายดีแบบเทน้ำเทท่า!

มากกว่า 50 ปีแล้วที่คำว่า 4P วนเวียนอยู่ในชีวิตของคนทำธุรกิจและนักการตลาด จากที่ไม่มีใครรู้เลยว่า 4P คืออะไรกลายเป็นกลยุทธ์สร้างความสำเร็จให้กับใครหลายคน! แต่เวลาเปลี่ยน หลายอย่างก็เปลี่ยนไป บริบทเดิมๆ ในยุคเก่าอาจจะใช้ไม่ได้แล้วในยุคนี้ เรื่องของกลยุทธ์การทำธุรกิจก็เช่นกัน วันนี้เราจึงอยากพูดถึง New 4P ในมิติใหม่ที่จะช่วยให้คนขายออนไลน์และผู้ประกอบการสามารถนำไปใช้ในการแข่งขันได้ทันตลาดและไม่ตกยุค

• Power of Data 

ยุคนี้ต้องยกให้ Data is King เมื่อข้อมูลกลายเป็นพลังสร้างธุรกิจได้มากกว่าที่คิด เพราะว่าโลกของเราในตอนนี้ ข้อมูลของลูกค้าเปรียบเสมือนสินทรัพย์ที่มีค่า หลายองค์กรใหญ่ยอมลงทุนมากมายเพื่อแลกกับการได้ข้อมูลของลูกค้า ได้ข้อมูลมาแล้วยังไงต่อ? หลังจากที่เราได้ Big Data ขนาดมหึมาแล้ว ก็ต้องรู้จักจัดการข้อมูลเหล่านั้นให้ถูกวิธีถึงจะสามารถใช้งานข้อมูลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ตัวอย่างของการนำเอา Data ไปใช้มีทั้งการคาดเดาพฤติกรรมของลูกค้า เช่น Netflix ที่จะแสดงผลหนัง ซีรีส์รวมถึงใบปิดหนังในแบบที่คิดว่าลูกค้าคนนี้ต้องชอบ ซึ่งคาดเดาจากหนังที่ลูกค้าเลือกดู ภาพแบบไหนที่ชอบกดเข้าไป ชอบดูซีรีส์แบบไหน เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถนำ Data ที่ได้ไปวิเคราะห์ คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้แก่ธุรกิจ นำข้อมูลไปกำจัดจุดบอดและสร้างบริการที่ดียิ่งขึ้น

• Personalization

อะไรที่ Mass แบบหว่านแหอาจจะคว้าใจผู้บริโภคยุคใหม่ได้ยากมากขึ้นเพราะว่าพวกเขามีความเป็นตัวเองสูง ชอบอะไรที่ไม่เหมือนใคร ฉะนั้น กลยุทธ์ Personalization จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์การสื่อสารให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย คุณต้องรู้ก่อนว่ากลุ่มลูกค้าของคุณมีใครบ้าง สามารถแยกพวกเขาได้เป็นกี่กลุ่ม เช่น กลุ่มคนที่หาข้อมูลเยอะก่อนซื้อ คนที่ชอบฟังเพื่อนรีวิว คนที่พร้อมซื้อเลยแบบไม่ต้องคิดเยอะ คนที่อยากได้โปรโมชั่นพิเศษ เป็นต้น จากนั้นก็ต้องทำการสื่อสารให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละกลุ่ม รวมไปถึงการสร้างสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละกลุ่มที่ต่างกันด้วย

• Phygital 

การทำธุรกิจในยุคนี้จะมีแค่ Physical หรือ Digital อย่างเดียวไม่ได้แล้ว แต่ต้องผสมผสานกันจนกลายเป็น ‘Phygital’ พูดง่ายๆ คือการทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อทั้งโลกจริงและโลกดิจิตอล ผสมผสานกันอย่างกลมกลืนโดยใช้เทคโนโลยีมาช่วย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ QR Code เพื่อให้ลูกค้าสแกนและได้รับประสบการณ์ต่างๆ บนโทรศัพท์มือถือหรือจะเป็นการสร้างร้านค้าที่ให้ลูกค้าสามารถใส่ VR เพื่อมองเห็นฉากต่างๆ ที่เปลี่ยนไป นอกจากนี้ยังสามารถทำการกับพวกเขาบนโลกออนไลน์และให้ลูกค้าสามารถทดลองใช้งานผ่าน Virtual Try-On แล้วค่อยไปรับที่หน้าร้านก็ได้เช่นกัน

• Platform 

ปิดท้ายกันที่ตัว New 4P สุดท้ายนั่นคือเรื่องของ Platform ที่ปัจจุบันมีให้คุณสามารถเลือกใช้เพื่อเสริมความแกร่งให้แก่ธุรกิจได้อย่างหลากหลาย แต่ที่สำคัญคือต้องเลือก Platform ให้เหมาะกับธุรกิจและวางกลยุทธ์ในการทำตลาดแต่ละ Platform ให้เหมาะสม เช่น การใช้ Facebook เพื่อเป็น Platform ที่จะช่วยสร้างแบรนด์และการรับรู้ให้ลูกค้าได้รู้จักคุณมากขึ้นในวงกว้าง อีกทั้งตอนนี้ยังสามารถใช้ Facebook ในการขายสินค้าได้ด้วย หรือจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าบน Twitter เพื่อบอกเล่าข่าวสารของแบรนด์หรือว่ารับฟังผู้บริโภคกลุ่มวัยรุ่น มีหลายแบรนด์ที่พยายามสร้างตัวตนบน Twitter  เช่น Netflix Thailand, Big C Thailand, Bobby Brown เป็นต้น

นอกเหนือจากเรื่องของกลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จแล้ว เรื่องของระบบหลังบ้านก็สำคัญมากไม่แพ้กันในการทำธุรกิจออนไลน์ในยุคนี้ หลายคนการตลาดดี ออเดอร์เข้ารัวๆ แต่หลังบ้านไม่พร้อมก็อาจจะทำให้คุณเสียโอกาสในการขายไปได้ง่ายๆ เพิ่มโอกาสในการขายได้มากขึ้น ขจัดทุกปัญหาที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ต้องเจอกับ Fillgoodsผู้ช่วยมืออาชีพของธุรกิจออนไลน์ ที่จะทำให้ชีวิตคุณง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น ที่เชื่อมต่อกับระบบขนส่งแบบไร้รอยต่อ ให้คุณจัดการออเดอร์ จัดการคลังสินค้า พร้อมทีมซัพพอร์ตที่ช่วยลดความปวดหัวเรื่องพัสดุให้คุณ

สมัครเลยวันนี้แล้วพลิกธุรกิจออนไลน์ให้ขายดีไปด้วยกัน!